Tuesday, July 28, 2009

Osaka Takoyaki : Make it by yourself

เก็บตกจากโอซาก้า ร้านนี้เด็ดสุด ชอบๆๆๆ เป็นร้านที่ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับการทำทาโกะยากิด้วยตัวท่านเอง
เมื่อเข้าไปนั่ง ก็จะเห็นว่าเตาทาโกะอยู่ตรงหน้า เด็กเสริ์ฟก็มาหยอดทาโกะลงหลุมให้ พร้อมแป้ง แล้วก็ถึงตาเราล่ะ หมุนๆๆๆ เขี่ยๆๆ ตามกำลังศรัทธา มือใหม่อย่างกะเหรี่ยงไทยก็ถือซะว่า ตาดีได้ตาร้ายเสีย (ส่วนใหญ่ดูเหมือนเป็นตาร้ายนะ ...อืม)

เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าทาโกะยากินี่เค้าใส่ทั้งต้นหอม ใส่ทั้งแป้งทอดเทมปุระ แล้วก็ใส่ขิงดองด้วย บางอันถ้าอยากจะใส่กุ้งก็ใส่ได้ตามอัธยาศัย แต่ที่สำคัญคือพลิกมันยังไงไม่ให้เละ และก็ต้องให้สุกพอดี ไม่ไหม้ด้วย


เละอ่ะ แต่ผลสุดท้ายก็ได้มาแบบไหม้นิดๆ แล้วก็ไม่ค่อยกลม แต่ก็น่าชื่นชม... ก็ต้องชื่นชมแหละ ห้ามบ่น ฝีมือตัวเองหนิ .. อิอิ
ถือว่าเป็นการปิดท้ายโอซาก้าด้วยของขึนชื่อของที่นี่ นั่นก็คือ ทาโกะยากิ และโอโคโนมิยากิที่อร่อยที่ซู้ดด

Monday, July 27, 2009

ไปปล่อยเต่าทะเลกันเถอะ

เช้านี้ (อาทิตย์ที่ 26 ก.ค.) เพิ่งกลับมาจากโอซาก้าสดๆร้อนๆ วันเสาร์นอนสลบเหมือดหนึ่งวัน ไม่ทำอะไรเลย นอนๆๆๆๆ เก็บแรงมาปล่อยเต่าที่อะควาเรียม
ทริปนี้ออกมากแต่เช้า รถออกเจ็ดโมงครึ่ง รีบตาลีตาเหลือกตื่นมาแต่เช้า อาบน้ำอาบท่าแล้วก็มี Breakfast box นอนแอ้งแม้งรออยู่ที่ชั้นล่าง กินแซนวิชเสร็จก็ดูวิวพอเพลินๆ ชม.ครึ่งก็ถึงแล้ว Churaumi Aquarium
วันนี้เรามีนัดกันมาปล่อยเต่าทะเล เป็นหนึ่งในการอนุรักษ์ธรรมชาติของที่นี่ โดยเค้าพยายามจะปลูกฝังให้เด็กๆมีจิตสำนึกรักทะเล รักเต่าทะเลกันตั้งแต่เด็กๆ
มาถึงก็มีป้ายมาห้อยคอเลย นี่.. ในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย มาร่วมปล่อยเต่ากับเด็กๆที่นี่เค้า รวมๆแล้วมี participant จากไจก้ามาสิบคน
พิธีเปิดก็คือ ผอ.ออกมากล่าวเปิด แล้วก็ให้พวกเราบอกชื่อเรียกเต่าทะเลในภาษาของเรากับเด็กๆ งานนี้ได้ออกทีวีด้วย อิอิ
หลากหลายประเทศจากทั้งไจก้า และมหาวิทยาลัยริวไดของโอกินาวา
อันนี้เต่าของพวกเรา เค้าเรียกว่าเป็นเต่าแดง ของไทยเรียกอะไรไม่รู้ เต่าพวกนี้อายุประมาณหนึ่งขวบ เพราะเค้าบอกว่าเป็นอายุที่สามารถจะดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่เล็กเกินไปที่จะโดนปลากิน
ดูโฉมหน้ากันชัดๆ เค้าบอกว่าวิธีการจับเต่าทะเลก็ให้จับแถวๆพุงเต่า ระวังมือด้วย เพราะฟันคม เดี๋ยวจะมีของที่ระลึกติดตัวเต่าไป ตัวเต่านิ่มๆนะ แต่ว่ามีเล็บด้วย เวลาอุ้มก็เอาขาหน้ามาตีมือเรา ตุ้บๆๆๆเลย

อันนี้ฝึกอุ้มก่อน สตาฟบอกว่าโอกาสจะได้ใกล้ชิดเต่าทะเลแบบนี้หายาก เพราะฉะนั้น ได้โอกาสจับตัวเป็นๆแล้วก็ให้เพ่งพินิจพิจารณากันให้เต็มที่ก่อนจะปล่อยลงทะเล ดูจนพอใจแล้วค่อยปล่อย เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าจดจำที่นี่

OSAKA Night Life!!!

มาถึงดินแดนแห่งโอโคโนมิยากิ(พิซซ่าญี่ปุ่น) และทาโกะยากิ ที่เค้าบอกว่าหนึ่งในแดนอาทิตย์อุทัย มาถึงก็ต้องลองซะหน่อย วันนี้ดูงานเสร็จเร็วแค่สามโมงเท่านั้น ก็เลยกระโดดขึ้นรถไฟจากศูนย์ เข้าเมืองโอซาก้า ชมเมืองกับเค้าซะหน่อย ปรากฏว่าลงสถานีก็งงเป็นไก่ตาแตก คนเยอะ ทางเดินก็เยอะ ไม่รู้จะไปทางไหน ก็เดินเอาไปมั่วๆ สุดท้ายก็เลยมาเริ่มต้นที่ร้านนี้ อยู่ที่สถานีรถไฟ เริ่มมื้อแรกที่ประมาณ 16.00 น.
และอีกจาน ยากิโซบะปลาหมึกยักษ์ ของที่นี่ขายแพงเหมือนกัน แต่ก็ตื่นตาตื่นใจดีทีเดียว
ย้ายมาอีกร้าน ลองอันนี้ อันนี้เป็นของหวานสำหรับหน้าร้อน ไม่รู้เรียกอะไรเหมือนกัน แต่ลักษณะคล้ายๆวุ้น นิ่มๆเหมือนลูกตาลอ่อนๆ โรยด้วยน้ำตาลทรายแดง กินเย็นๆ อร่อยดี
เขยิบมาชั้นบน ที่นี่เค้าเรียกว่า sweet museum เริ่ดดดดดดด มากๆๆๆๆๆๆๆๆ ของหวานทั้งชั้น เพียบเลย ทั้งไอศครีม เค้ก ฯลฯ อยากมาอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยล่ะ อันนี้เป็นโมจิฟิวชั่น อร่อยจัง มีสารพัดไส้เลย
เค้ามีทั้งไส้งา ไส้สตอเบอรี่ ไส้ชอคโกบานานา ไส้ครีม ไส้แอปเปิ้ล อร่อยยยยยยยมากกกกกกก เพราะว่ามันเย็นๆ คล้ายๆไอติม รสชาติก็เหมือนพวกไส้เค้กหรือหน้าเค้กเลย ชอบมั่กๆ
อันนี้ไส้งาดำ ซื้อมาทั้งหมดสี่ลูก รับประทานรวดเดียวค่ะ
มาดูข้างล่างกันบ้าง โห อยู่บ้านนอกมาซะนาน เพิ่งเห็นแสงสีของแหล่งชอปปิ้งนี่ละ ต้นไม้ก็ประดับไฟ
เหมือนคริสมาสเลย คนที่นี่แต่งตัวแรงๆ ดูเพลิ๊นเพลิน

ป้ายกูลิโกะยักษ์ที่เหล่านักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน เป็นป้ายไฟขนาดยักษ์เลยล่ะ
ติดกันก็อันนี้ asahi
และอันนี้ที่ใฝ่ฝันถึง ปูยักษ์ เสียดายไม่มีเวลาได้ลองอ่ะ (แง๊....เค้าอยากกิน)

Night street show,,, very amazing!!!

Hello OSAKA!

Hello OSAKA มาถึงซะที โอซาก้า ที่ OS.I.C นี่อยู่หลังเขาเหมือนกัน (เหมือนโอกินาวา) แต่ว่าที่นี่ศูนย์เค้าใหม่มากๆ วิวก็ดี อันนี้เป็นวิวจากระเบียงห้อง มองออกไปเห็นเป็นวิวอ่างเก็บน้ำ ตื่นมาถ่ายรูปแต่เช้า ที่นี่นอนสบายมากๆ หลับสบ๊ายสบาย เหมือนโรงแรมเลยล่ะ
ใกล้ๆ ก็เป็นโลโก้หลักของโอซาก้านี่ เค้าเรียกว่า tower of the sun
หน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาด เหอๆๆ

ดูงานที่โอซาก้า

ที่โอซาก้า ไปดูงานที่พิพิธภัณฑ์ กับศูนย์โซนี่ที่ล้ำมากๆ เสียดายที่ว่าเค้าห้ามถ่ายรูปน่ะ ก้เลยเก็บมาได้แค่ส่วนของพิพิธภัณฑ์ อันนี้คือ National Museum of Ethnology เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับชาติพันธุ์มนุษย์ทั่วโลก
พิพิธภัณฑ์นี้เค้าสร้างมาตั้งแต่สมัยจัดงานเอ็กซ์โป พอจัดงานเสร็จ ที่เหลือ ก็เลยเอามาทำเป็นพิพิธภัณฑ์แบบนี้แหละ ไปดูข้างในกันดีกว่า
โอ้ ล้ำมากๆ พอเข้าไปปุ๊บ เค้าก็ให้คู่มืออันนี้มา เป็น PSP พอไปถึงตรงไหนก็เลือกตามเบอร์ที่ติดไว้ ก็จะมีคำบรรยายพร้อมกับสกู๊ปสั้นๆของๆอันนั้นๆ อย่างละเอียด ดีที่เป็นคลิปสั้นๆ แค่ 1-2 นาที ไม่น่าเบื่อ ทำให้เปิดฟังได้เกือบทุกอัน และความที่มีรูปภาพด้วย ทำให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นอีก แบบว่า...อยากได้อ่ะ
คุ้นหน้าไหม อันนี้เค้าจะลองมาน่ะ
ส่วนอันนี้เก๋มาก ทายซิอะไร
.
.
.
.
อิอิ... เป็นเงินโบราณ ใหญ่ติดอันดับโลก เพราะว่าอันที่พบที่ใหญ่ที่สุดก็คือเส้นผ่านศูนย์กลางห้าเมตร อยากรวยไหมล่ะ
ปิดท้ายด้วยพระพิฆเนศร์ จริงๆ ที่นี่มีเยอะ หลายปาง แต่ว่าองค์นี้ทำด้วยงานสาน แปลกและสวยด้วย
ชักภาพกันหน่อย...เป็นที่ระลึก

Saturday, July 25, 2009

NHK - NHK museum - Miraikan

ชินคันเซนๆๆๆๆ รถไฟหัวกระสุนเร็วสุดๆ อันเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวอาทิตย์อุทัย ดูงานเสร็จก็นั่งไปลงโตเกียว ใช้เวลาสามชม.เท่านั้น ราคาน้องๆเครื่องบินเลยทีเดียว
สรุปว่ารถไฟเร็วไป มองอะไรไม่ค่อยทัน แถมถ่ายรูปก็ลำบากด้วย 555
โอเค นี่คือพิพิธภัณธ์ด้านเทคโนโลยีสุดล้ำของโตเกียว เคยมาแล้วเมื่อคราวก่อน แต่คราวนี้นิทรรศการเค้าก็ปรับไปเยอะเหมือนกัน
น่าเสียดายที่คราวนี้ไม่ได้ดูอาซิโม หนัง 4D ก็ไม่ได้ดู เพราะ บัตรเราไม่ cover เซ็งจัง
ชักภาพกะลูกโลกตามเคย
เอ็นเอชเค สถานีโทรทัศน์ใหญ่ยักษ์ที่นี่ เออใหญ่จริงแฮะ เงินก็หนาด้วย ที่นี่เค้าพาไปดูถ่ายละคร ซึ่งก็ "ดู" จริงๆ น่าจะเรียกว่าไปเป็นสปายมากกว่า เพราะว่าทำตัวลีบๆ เดินเข้าไปอย่างเกรงใจ สตาฟก็มองตาเขม็งเลย ตอนถ่ายงานก็ไม่ได้ดูอะไรเลย เฮ้อ
ห้อง control ข่าวเค้า ล้ำกว่าเรา เพราะระบบเป็น non-lenior เต็มรูปแบบ ทำงานกันสบายๆ แบบดิจิตอล
ห้องข่าว NHK World หลักการทำงานทั่วไปก็เหมือนๆกันนั่นแหละ แต่ที่ต่างคือทุนกับ vision เหอๆๆๆ
ต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โทรทัศน์ของ NHK บ้านเราน่าจะทำอย่างงี้บ้างนะ
เค้ามีกล้งให้ลองเล่นหลายรุ่น แบบที่เด็กๆ คงจะติดใจทีเดียว
Hall of fame สถานีเราก็มี ผิดแต่ว่าที่นี่เค้าเก็บรักษาอย่างดี อย่างเห็นค่าประวัติศาสตร์ เฮ้อ..
กล้องที่นี่มีทุกรุ่น ไมค์ทุกแบบ เก็บกันแบบทุกเม็ด รายการทุกรายการที่ดังๆ มีเก็บไว้หมด
โมเดลกองถ่าย

Observation trip @ Tokyo

ทริปดูงานครั้งนี้ระยะเวลารวมห้าวัน เป็นเดินทางซะวันครึ่ง เหนื่อยชะมัด เพราะต้องตะลอนๆๆ ขึ้นๆลงๆรถไฟ พร้อมกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ ที่แรกๆก็ดูเหมือนไม่หนักเท่าไหร่ แต่ทำไมยิ่งเดินๆไปมันยิ่งหนักก็ไม่รู้
เริ่มทริปด้วยการนั่งเครื่องไปลงโตเกียว แล้วต่อรถไฟไป JICA สาขาโตเยวแถวชิบูย่า โตเกียวอากาศเย็นกว่าโอกินาวาเยอะ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าร้อน ก็ยังมีฝนตกพรำๆอีก มือนึงถือร่ม สะพายเป้ และแบกกระเป๋า(เดินทาง) ในเวลาเดียวกัน อ้อ ถ้าเหลืออีกมือก็โหนรถไฟด้วย เป็นลิงเลย 555
ทักทานโตเกียวด้วยการเดินๆๆ วันแรกไปถึงเร็ว ก็เลยขอแวะไปดูเครื่องไฟฟ้าแถวอาคิฮาบาร่าหน่อย เพื่อนๆทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไปเสียเงินกันที่นั่น
การแสดงริมถนนแถวอาคิฮาบาร่า นี่ไงจ๊ะ J-POP ที่อยากเห็นกัน 555
บรรยากาศแถวอาคิฮาบาร่าสับสนวุ่นวายชะมัด อาจจะเป็นเพราะว่าไปอยู่บ้านนอกมาซะสามเดือน เจอแสงสีเลยงงเต็กไปเลย
ได้หูฟังโซนี่ตามออเดอร์เสร็จก็ไปล่องเรือกันต่อ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าโตเกียวมีการท่องเที่ยวทางเรือด้วย น่าเสียดายที่อากาศปิด ก็เลยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่ แต่บ้านเราสวยกว่าเยอะ เพราะว่ามีตึกเก่าๆ ให้ดูบ้าง ที่นี่ไม่มีอะไร มีแต่ตึกสมัยใหม่ทั้งนั้น
บ.เบียร์ชื่อดัง หน้าตาเหมือนอุนจิยักษ์ ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปด้วย จุดหมายปลายทางของเราคือวัดอาซะคูสะ ลงเรือแล้วก็เดินตากฝนพรำๆ ไปที่วัด ระยะทางเดินพอเหนื่อยก็ถึง แย่ชะมัด มาคราวที่แล้วก็อากาศแบบนี้ ตกลงนี่หน้าอะไรหว่า
ชอทบังคับหน้าอาซะคูสะ
ด้านหน้า ตอนนี้ถ่ายได้แค่นี้ เพราะข้างในก็ยังซ่อมอยู่ เรียกว่าซ่อมแบบมาราธอน เพราะตอนมาตั้งแต่สองปีที่แล้วก็ยังซ่อมอยู่แบบนี้แหละ
เจดีย์ด้านใน น่าเสียดายที่ไปถึงช้า อะไรๆ ก็ปิดหมด อดช้อปปิ้งเลย ฮือ...
โตเกียวทาวเวอร์ เพื่อนๆพากันขึ้นไปดูวิว เราไม่ไปดีกว่า เพราะไปมาแล้ว แถมอากาศก็ปิด ฝนตกพรำๆ มองอะไรไม่ค่อนเห็น ฟูจิก็ไม่เห็นอีกตามเคย เฮ้อ
ก็เลยนั่งรอเพื่อนกินขนมอยู่ข้างมินิมาร์ท ป๊ะกับปิกาจูพอดี น่ารักจัง